ไก่พญา พระเจ้า 5 พระองค์

ไก่พญา พระเจ้า 5 พระองค์

๑. ไก่ห้าพระยา (พระยา ไม่ใช่ พญา) เป็นไก่มงคล ๕ สีในตัวเดียวกัน คือ ดำ, แดง, ขาว, เขียว, เหลือง ทีสร้อยคอ สร้อยหลัง สร้อยปีก จะมี ๕ สี นับเป็นไก่มงคลสูงสุด มีค่าควรเมือง ไก่เจ้า, ไก่ขุน, ไก่พระยา เลี้ยง บางตำราเรียกว่า “ไก่เบญจรงค์” เลี้ยงไว้ในบ้านจะเป็นมงคลสูงยิ่งกว่าไก่อื่นใด เพราะคุณตามสีไก่ทั้ง ๕ (เบญจรงค์) จะนำทรัพย์สินเงินทองมาสู่เจ้าของมิได้ขาด เป็นไก่นำโชคลาภมาสูเจ้าของโดยแท้

๒. ไก่พระเจ้า๕ พระองค์ จะเป็นไก่มีมงคลสี ๔ สี(จตุรงค์)ในตัวเดียวกัน คือ ขนพื้นตัว ดำ, หน้า แดง, หย่อมกระ ๕ พระองค์ ขาว , สร้อย เหลือง โบราณถือเป็นว่ามีเทพรักษา ๕ แห่ง ๕ พระองค์ เรียก”ไก่พระเจ้า ๕ พระองค์” เป็นไก่สกุลสูง ไก่เจ้า ไก่พระยาเลี้ยง ชาวบ้านหากได้เป็นเจ้าของจะเป็นมงคลสี ๔ อย่าง ร่ำรวยทรัพย์ มีบริวารมาก มีชื่อเสียงเป็นที่นับถือของคนทั่วไป

๓. ไก่พญาหงส์เป็นไก่สีมงคลทั่วๆไป ทีพิเศษคือ ปลายปากจะงองุ้มดุจตะขอ ปีกยาว หัวปีกยก หางดกเป็นฟ่อน เดินหยิบโหย่ง ท่วงท่าสง่างามยิ่ง ใครได้เป็นเจ้าของ จะเป็นเมตตา มหาเสน่ห์ ในทางชู้สาว เป็นชายจะมีหญิงหลงรักมาก หากเป็นหญิงจะเป็นที่หมายปองของชายดีๆมากเช่นกัน นำทรัพย์สิน ชื่อเสียงมาสู่ ผู้เป็นเจ้าของ

๔. ไก่ทรงไตรภพ เป็นไก่สีมงคลทั่วๆไป ที่พิเศษคือ จะมีขนขึ้นในลำคอ กลิ่นปากดุจดังกระแจะจันทร์
ลายขนเป็นรูปคล้ายอักษรขอม หากได้เป็นเจ้าของจะเป็นคนมีเสน่ห์แรง ภาชนะใส่อาหาร,น้ำ ไก่ทรงไตรภพ ควรเป็นเงิน,ทอง,นาค จึงจะคู่ควรแก่ไก่ น้ำที่เหลือจากไก่กิน นำไปรดพืชผัก ประพรมสินค้า จะขายดี รำรวยเป็นเศรษฐีได้ง่ายๆ

๕. ไก่จบกระบวนยุทธ์ คือไก่ที่ชนเก่ง ไม่เลือกสีเลือกสกุล แต่มีชั้นเชิงการชน แพรวพราว ล้ำเลิศเหนือไก่อื่นใด ตัวนี้แหละเอาไว้ชนเดิมพันธุ์ เป็นไก่ตีล่ารางวัล ปัจจุบันลองนึกดูครับ รวย ไม่รวย ตีก็ชนะ เพราะลูกได้เท่าก็ขายได้หมด ตัวไก่ก็มีมูลค่าสูง

๖. ไก่พูดรู้ภาษา คือไก่แสนรู้ฟังคำสั่งจากเจ้าของรู้เรื่อง เหมือนกับหมาและสัตว์อื่นๆที่แสนรู้ ไก่นี้มีมงคล

ถ้าเจ้าของรู้จักใช้รู้จักฝึก โบราณว่าไว้ เมื่อนำไปเปรียบชน ให้ถามเค้าทำนองว่า เอาหรือไม่? สู้ได้หรือไม่? ไหวหรือไม่?…เมื่อเค้าแสดงอาการกระตือรือร้นจะสู้ แสดงว่าเค้าจะชนะตัวนั้นได้ แต่ถ้าเค้าหลบหน้าคือไม่เอาไม่สู้ เค้าจะสู้ไม่ไหว ถ้าชนจะแพ้ ไก่พูดรู้ภาษา เป็นไก่มีญาณรู้กาลข้างหน้า ใครได้เป็นเจ้าของ ก็ทำนองเดียวกับ ไก่จบกระบวนยุทธ์

ไก่มงคลเหล่า
นี้เหมือนสิ่งสักสิทธิ์ ให้คุณแก่เจ้าของ ช่วยเสริมบุญบารมี

ข้อคิดดีๆ ในการทำธุรกิจส่วนตัวให้ประสบความสำเร็จ

ข้อคิดดีๆ ในการทำธุรกิจส่วนตัวให้ประสบความสำเร็จ ^ ^
>คิดได้ แต่ไม่ทำก็ไม่มีวันสำเร็จ ต้องทำและทำทันที จะได้ไม่ต้องเสียใจว่าไม่ได้ทำตามที่คิดได้<
>ไม่มีเวลา คือข้ออ้างของคนขี้เกียจ<
>สิ่งที่คนมองข้าม นั่นแหละคือโอกาสของเรา<
>คิดและทำมากกว่าพูด<
>ขยันไม่ถูกช่องทาง ไม่ถูกวิธี ก็ไม่มีวันรวย<
>9 ชีวิตเยอะสำหรับแมว แต่น้อยสำหรับนักธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้เสมอ<
>มีความรู้อยู่กับตัวไม่ต้องกลัวว่าล้มเหลว<
>รู้ลึก รู้จริง เก่งด้านเดียวก็รวยได้<
>ต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การย่ำอยู่กับที่คือการถอยหลัง<
>ทำธุรกิจย่อมมีปัญหา รู้แล้วจงอย่ากลัว<
>ธุรกิจที่มีคนทำเยอะ เพียงแค่เราทำให้ดีกว่าก็แตกต่างแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดใหม่ทำใหม่เสมอไป<
>อย่าตั้งเป้าหมายไกลเกินตัว มันจะทำให้คุณท้อได้ เพราะไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที<
>อย่ามัวแต่ตั้งคำถาม ถ้าไม่ทำก็ไม่เจอคำตอบ<
>คลื่นลมแรง เรือเล็กควรออกจากฝั่ง (เป็นแฟนเพลงบอดี้สแลม)<
>กำลังใจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเรารู้ว่าทำเพื่อใคร<
>ของแพง ขายยาก แต่กำไรดี รวยเร็ว<
>แค่เปลี่ยนแนวคิด ชีวิตก็เปลี่ยนได้ แต่มันยังไม่เปลี่ยนถ้าเรายังไม่ลงมือทำ<
>ร้อยรู้หรือจะสู้ลงมือทำ<
>เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือปลาร้ายังมีหนอน อย่าคิดว่าเราเก่งที่สุด ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ<
>อย่าทำตัวเป็นน้ำที่เต็มแก้ว ให้ทำตัวเป็นแก้วที่ว่างเปล่าพร้อมที่จะรับเอาความรู้ใหม่เสมอ<
>วิธีประสบความสำเร็จไม่สามารถระบุจำนวนได้<
>ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงใช้ได้ดีกับการทำธุรกิจ<
>อย่าลืมจุดกำเนิดของตัวเอง<
>อยากทำธุรกิจอย่ามองข้ามการออม<
>ที่ไหนมีคน ที่นั่นมีเงิน<
>ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง<
***>คนจำนวนมากอยากมีอิสระไม่อยากเป็นลูกน้องของใคร แต่คนจำนวนมากเช่นกันที่อยากเป็นเจ้านายของคนอื่น<
>ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน เป็นเรื่องจริงเสมอ<
>ต้องรู้จักบริหารเวลา เพราะเวลาเป็นต้นทุนที่ผ่านไปแล้วผ่านไปเลย<
>มีเงินเยอะแต่ไม่ฉลาดใช้ไม่นานเงินก็จะหมด<
>ความเพ้อฝันไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อสำหรับคนทำธุรกิจ<
>การทำธุรกิจต้องมีสไตล์เป็นของตัวเอง อย่าลอกเลียนแบบคนที่สำเร็จ ควรดูเป็นแค่ตัวอย่าง<
***>เราไม่รู้ว่าจะมีชาติหน้าหรือเปล่า คนเราเกิดมาชาติเดียวอยากทำอะไร ต้องลงมือทำ สิ่งที่เราได้จากการลงมือทำคือประสบการณ์ แล้วซักวันหนึ่งความสำเร็จจะเป็นของเรา<

หลักการทำให้ หัวใจเศรษฐี

วันนี้ ผมมีบทความดีๆมาฝากชาวไก่ชนกันครับ เป็นหัวใจเศรษฐี ที่น่าจะมีประโยชน์


หัวใจเศรษฐี ก็คือ หลักธรรมที่นำไปสู่จุดหมายนั่นเอง จะทำอะไรก็สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า พนักงานบริษัท นักธุรกิจ นักการเมือง ถ้านำหัวใจเศรษฐีนี้ไปปรับใช้กับชีวิตก็รับประกันได้ถึงความสำเร็จ

หัวใจเศรษฐีมีอยู่ 4 ประการ คือ

1. อุ มาจาก อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ขยันหา

2. อา มาจาก อารักขสัมปทา แปลว่า รักษาดี

3. กะ มาจาก กัลยาณมิตตตา แปลว่า มีกัลยาณมิตร

4. สะ มาจาก สมชีวิตา แปลว่า ใช้ชีวิตพอเพียง

ทีนี้ก็มาดูทีละข้อว่าจะต้องทำอย่างไร

อุ คือ ขยันหา หมายความว่า อย่าเกียจคร้าน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ต้องเดินไปข้างหน้าทันที เงินเป็นของกลาง ใครเดินเข้าไปหาก็เป็นของคนนั้น เงินไม่ได้ถูกผูกขาดไว้เป็นสมบัติของคนรวย เงินถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นสมบัติของคนทั้งโลก ใครขยันมากก็ได้มาก ใครขยันน้อยก็ได้น้อย ใครไม่ขยันเลยก็ไม่ได้เลย

เงินชอบคนขยัน ถ้าเห็นใครขยันก็จะกระโดดไปอยู่ด้วย แต่ถ้าคนขี้เกียจ เขาก็ไม่อยากอยู่ด้วย เงินก็จะกระเด็นหนีไปหมด

อา คือ รักษาดี หมายความว่า เงินเข้ามือซ้าย มือขวาต้องเก็บ เงินเข้ามือขวา มือซ้ายต้องเก็บ ไม่ใช่เงินเข้ามาทางซ้าย ปล่อยให้ไหลไปทางขวา เงินเข้ามาทางขวา ปล่อยให้ไหลออกไปทางซ้าย อย่างนี้ไม่มีทางรวยแน่นอน เราต้องรู้จักเก็บ เก็บรักษาให้ดี

พระพุทธองค์ สอนวิธีรักษาเงินไว้ว่า เมื่อทำมาหากินโดยชอบแล้ว ได้เงินมาก็ต้องแบ่งเป็นส่วนต่างๆดังนี้

1. เก็บเป็นเงินสำรองคงคลังไว้ก้อนหนึ่ง เผื่อเจ็บไข้ขึ้นมาก็ไปเบิกใช้รักษาตัว คนมีเงินสำรองคงคลังเยอะๆ สุขภาพจิตจะดีเป็นพิเศษ คนที่มีเงินเยอะๆจะหัวเราะเสียงดัง เวลาไปวัดก็นั่งแถวหน้า ไม่กลัวซองผ้าป่าเลย

2. แบ่งเงินมาใช้กินด้วย เงินเป็นสิ่งสมมุติ ชีวิตมนุษย์เป็นของจริง เงินจะมีค่าต่อเมื่อนำมาใช้ เงินที่ยังไม่ถูกนำมาใช้ ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ของเงิน อย่าเก็บไว้จนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ คนอื่นก็ไม่ได้กิน ตัวเองก็ไม่ได้กิน

3. เอาเงินมาต่อเงิน คือ ให้รู้จักทำธุรกิจนั่นเอง แต่อย่าให้เกินกำลัง เวลาเรามีเงินก็ให้ดูช่องทางว่า จะต่อยอดธุรกิจอะไรจากเงินตรงนี้

4. รู้จักเสียภาษี เพราะเราเกิดแผ่นดินนี้ อยู่แผ่นดินนี้ เราเป็นหนี้บุญคุณแผ่นดิน อย่าหลีกเลี่ยงการเสียภาษี รวยแล้วให้ ได้แล้วแบ่งปัน คือ สูตรของพระพุทธองค์ 5. บำรุงสมณชีพราหมณ์ ให้กินอิ่มนอนอุ่น มีกำลังใจออกไปเทศน์ไปทำบุญ เพื่อรักษาธรรมไว้ให้สังคม 6. อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ

กะ คือ กัลยาณมิตตตา คือ รู้จักคบคนดีเป็นเพื่อน กัลยาณมิตร ก็คือ Connection นั่นเอง ขณะเดียวกันก็ต้องหลีกเลี่ยง บาปมิตร คือ เพื่อนเลว และ พันธมิตร คือ เพื่อนที่ค้าขายกับเราแต่ไม่จริงใจกับเรา

สะ คือ สมชีวิตา การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อย่าลงทุนเกินหน้าตัก จะลงทุนอะไรท่านสอนไว้ 3 คำ คือ มีเหตุผล พอประมาณ ทางสายกลาง

นี่คือ "หัวใจเศรษฐี" ที่ผมย่อมาเล่าให้ฟัง ถ้าอยากเห็น "หัวใจเศรษฐีของจริง" ท่านที่อยู่ ภาคเหนือ สามารถไปสัมผัสได้ทั้ง สินเชื่อธุรกิจ ซื้อบ้าน ซื้อรถ และ ลงทุนด้วยตัวเอง ดอกเบี้ยก็ถูกผลตอบแทนก็สูง ได้ที่ งานมหกรรมการเงิน Money Expo เชียงใหม่ 2010 ที่ เซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต งานจะมีวันนี้และพรุ่งนี้อีกสองวัน แล้วท่านอาจเป็น "เศรษฐีตัวจริง" ขึ้นมาก็ได้.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

ขออนุญาตคัดลอกบทความที่มีประโยชน์จาก 
http://www.thairath.co.th/content/129814

หลักการดูไก่พม่า100 แพ้ไก่เชิงไหนบ้าง

สูตรดูไก่ชน ป่าก๋อย-ไก่พม่า100 ของคุณประเภทไหนจะแพ้ไก่ชนทางไหน



1. ไก่พม่ายืนหยิบแทงจะแพ้ทางไก่ชนเชิงไทย
2. ไก่พม่าโยกหัวล่างขยับเตะจะแพ้ทางไก่พม่า
เดินจิ้มหยิบหน้าหงอนแทง
3. ไก่พม่าเดินจิ้มหยิบหน้าหงอนแทงจะแพ้ทางไก่พม่าโยก หลุด ลอด ถอด ถอย แข็งหน้าจัดๆ
4. ไก่พม่าเดินจิ้มหยิบหน้าหงอนเตะจะแพ้ทางไก่ไทยล็อก+ไก่มัด
5. ไก่ป่าก๋อยล็อก มุด มัด หรือเอี้ยวตีจะแพ้ทางไก่พม่าโยก หลุด ลอด ถอด ถอย ขยาย แข้งหน้าจัดๆ
6. ไก่ป่าก๋อยล็อก มุด มัด บด บี้ ขยี้ กัดแหลกจะแพ้ทางพวกไก่ม้าล่อวิ่งล่อตบ ทั้งสั้น ยาว
7. ไก่พม่าพวกวิ่งล่อตบ จะแพ้ทางไก่พม่าถอยตี ไม่วิ่งตาม ดักจังหวะเตะ
8. ไก่พม่าโยก ลอด ถอด ขยาย แข้งหน้าจัดจะแพ้ทางไก่ชนเชิงเดียวกันแต่จะเป็นตัวไหนใจเย็นกว่า
9. ไก่ชนหมดทั้งหลายนี้จะแพ้ทางเจ้าของไก่ชน ที่ใจร้อน ถือว่าไก่ชนกรูแน่ ชนแหลกเล็กใหญ่ไม่สนขอให้ได้ชนไว้ก่อน

คัดลอกบทความดีจากเวป พญาไก่ชน
http://payagaichan.blogspot.com